บริษัทออกแบบตกแต่งภายใน

ข้อควรรู้เมื่อต้องเลือกใช้บริษัทออกแบบตกแต่งภายใน

                เชื่อว่าในช่วงปีสองปีนี้ที่หลายคนต้องอยู่บ้านนานกว่าปกติ หนึ่งในกิจกรรมที่แทบทุกครอบครัวจะต้องมีคือการตกแต่งบ้าน ซึ่งแรก ๆ อาจจะเริ่มด้วยการปรับเปลี่ยนบางมุมก่อน แล้วค่อยเพิ่มเลเวลเป็นซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่มาเพิ่มเติม และถ้าสุดท้ายแล้วยังเติมเต็มความต้องการไม่ได้อีก ก็มักจะมาจบที่การตกแต่งภายใน (Interior Design) ให้เป็นไปตามฝัน แต่จะเป็นฝันดีหรือฝันร้ายนั้น ต้องมารอลุ้นเอากับฝีมือของบริษัทออกแบบตกแต่งภายในที่เลือกมาอีกที

                ถ้าไม่อยากตกอยู่ในสภาวะรอลุ้นจนไมเกรนขึ้นล่ะก็ ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ดูสิ รับรองว่าจะช่วยให้สบายใจขึ้นได้แน่นอน

  1. ร่างแบบที่ตัวเองต้องการลงบนกระดาษหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามถนัด เพื่อบันทึกรายละเอียดที่ต้องการไว้ในเบื้องต้น ไม่ให้ตกหล่น
  2. เลือกดูผลงานที่ผ่านมาของบริษัทออกแบบตกแต่งภายในจากสื่อต่าง ๆ ของบริษัท เช่น เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก แคตตาล็อก เป็นต้น เพื่อหาแนวทางที่ตรงกับความต้องการของคุณเอง เพราะถ้าไม่ใช่บริษัทใหญ่ อาจมีมัณฑนากร (Interior Designer) จำกัด ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความถนัดที่แตกต่างกันไป  บางครั้งงานสวยจริง งานดีจริง แต่อาจจะไม่ถนัดในแบบที่ตรงกับความต้องการก็ได้
  3. เลือกบริษัทออกแบบตกแต่งภายในจากความน่าเชื่อถือ เช่น ที่ตั้งเป็นหลักแหล่ง มีการจดทะเบียนบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย หรือข้อมูลอื่น ๆ
  4. กรณีมีตัวเลือกในใจเยอะมาก อาจเลือกตัดช้อยส์ด้วยการอ่านรีวิวของลูกค้าเก่า เพื่อดูภาพรวมของการให้บริการ โดยควรหารีวิวจากหลายแพลตฟอร์ม และอย่าดูแค่ช่องทางของบริษัทเท่านั้น เพราะมันสามารถปรับแต่งได้ วิธีง่าย ๆ ก็คือนำชื่อบริษัทมาเสิร์ชหารีวิวเพิ่มเติมใน Google
  5. เมื่อช้อยส์ในใจเหลือน้อยแล้ว ให้เตรียมข้อมูลของคุณเท่าที่จะหาได้ให้พร้อม อาทิ แบบที่ร่างไว้ ลิสต์สิ่งที่ต้องการมากเป็นพิเศษ ขนาดพื้นที่ งบประมาณ และนำไปปรึกษากับบริษัทออกแบบตกตกแต่งภายในที่ต้องการ ซึ่งในขั้นตอนนี้มัณฑนากรจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความต้องการ เพื่อจะได้ออกแบบได้ถูกต้องที่สุด
  6. รอมัณฑนากรออกแบบเบื้องต้นตามโจทย์ที่ให้ไว้ ขั้นตอนนี้จะทำให้เห็นการออกแบบที่ชัดเจนขึ้นว่าใช่แบบที่ถูกใจหรือไม่ เพราะจะมีการนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาอธิบายถึงแนวทางการทำงานในอนาคต เป็นขั้นตอนที่ควรตัดสินใจได้แล้วว่าจะใช้บริการบริษัทใด กรณีที่ยังเลือกไม่ได้ เนื่องจากหลังจากนี้จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในแต่ละสเต็ป หากยกเลิกกลางคัน อาจจะทำให้เสียเงินไปเปล่า ๆ
  7. บริษัทออกแบบตกแต่งภายในจัดทำแบบแปลนตามการตกลง ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีแสง สี ลายเส้นครบถ้วน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันมากที่สุด ซึ่งคุณในฐานะผู้ว่าจ้างสามารถปรับแก้แบบให้ตรงใจมากขึ้นได้ แต่เรื่องจำนวนครั้งจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัท
  8. ทีมงานจัดทำแบบแปลนขั้นสุดท้าย ที่จะไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมอีกแล้ว หรือถ้าจะมีก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
  9. บริษัทออกแบบตกแต่งภายในกำหนดวัสดุที่ใช้ตกแต่งทั้งหมด แล้วยื่นเสนอให้ผู้ว่าจ้างพิจารณาเปรียบเทียบข้อมูลวัสดุ เมื่อคอนเฟิร์มแล้วและไม่มีอะไรแก้ไข จึงจะสามารถดำเนินการต่อไปได้
  10. มัณฑนากรเขียนแบบร่างขั้นสุดท้ายเพื่อเตรียมพร้อมให้ทีมช่างลงมือปฏิบัติงานจริง  
  11. ช่างลงมือตกแต่งภายในตามตกลง โดยผู้ว่าจ้างควรติดตามการดำเนินงานเป็นระยะ

แม้จะมีหลายขั้นตอนไปหน่อย แต่ทั้งหมดก็ถือว่าสำคัญกับการเลือกใช้บริษัทออกแบบตกแต่งภายในให้มาดูแลบ้านของเราอย่างสบายใจที่สุด ทั้งนี้ยังอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลย คือ สัญญาการดำเนินงานต่าง ๆ ที่ควรอ่านให้รอบคอบว่าเป็นธรรมกับตัวคุณหรือไม่ ทั้งในเรื่องเงื่อนไขการชำระเงิน การแก้ไขแบบร่าง หรืออื่น ๆ หากอ่านแล้วไม่สบายใจหรือเกิดคำถาม ควรรีบสอบถามความชัดเจนจากบริษัท หรือปรึกษาสคบ. โทร 1166 อย่าปล่อยไว้ เพราะเมื่อเซ็นชื่อลงไปแล้วนั่นถือว่าสัญญาสมบูรณ์ การมาเรียกร้องภายหลังอาจทำได้ยาก